วิธีตรวจสอบเบื้องต้นเมื่อแอร์ไม่เย็น (เคล็ดลับง่าย ๆ ที่คุณทำได้เอง)
วิธีตรวจสอบและแก้ปัญหาแอร์ไม่เย็นในฤดูร้อน (แนวทางง่าย ๆ สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง)
ในช่วงฤดูร้อน ปัญหาแอร์ไม่เย็นเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างของอาคารมักต้องรับมืออย่างต่อเนื่อง พร้อมเสียงโทรศัพท์แจ้งปัญหาที่มักมาพร้อมความร้อนใจ เช่น “ฝ่ายช่างใช่ไหมคะ? ตอนนี้แอร์ในห้องประชุมร้อนมาก ช่วยมาดูด่วนค่ะ!”
เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาแอร์ไม่เย็นอย่างรวดเร็วและตรงจุด ต่อไปนี้คือขั้นตอนและวิธีการตรวจสอบที่คุณสามารถปฏิบัติได้:
1. ตรวจสอบการตั้งค่าของเทอร์โมสตัต
- ตรวจดูว่าเทอร์โมสตัตตั้งค่าไว้ในระดับที่เหมาะสม (ปกติ 23–25 องศาเซลเซียส)
- หากตั้งค่าถูกต้องแล้ว แต่แอร์ยังไม่เย็น อย่าปรับเทอร์โมสตัตต่ำสุด ให้ตรวจสอบในขั้นตอนถัดไป
2. วัดอุณหภูมิลมจ่าย
- ใช้เทอร์โมมิเตอร์ (แนะนำแบบดิจิทัล) วัดใกล้กับหน้ากากจ่ายลมเย็น
- เกณฑ์การวัด
- หากลมจ่ายมีอุณหภูมิ 10–15 °C ถือว่าปกติ
- หากสูงกว่า 15 °C ให้ตรวจสอบสิ่งเหล่านี้:
- มีลมร้อนจากภายนอกเข้ามาหรือไม่ (เช่น ท่อรั่ว, ช่องฝ้าเปิด)
- แผงคอยล์เย็นหรือคอยล์ร้อนสกปรกหรือไม่
- น้ำยาทำความเย็นเพียงพอหรือไม่
3. ตรวจสอบปริมาณลมจ่าย
- วัดความเร็วลมด้วยเครื่องวัดแบบใบพัด แล้วคำนวณปริมาณลมจ่าย
- เกณฑ์ปริมาณลมจ่าย
- ห้องทั่วไป: 15–30 cfm/ตร.ม.
- ห้องติดกระจกหรือรับแดดจัด: 30–40 cfm/ตร.ม.
- หากปริมาณลมจ่ายต่ำเกินไป ให้ตรวจสอบว่า:
- แผ่นกรองอากาศอุดตันหรือไม่
- พัดลมหมุนช้าหรือสายพานหลวม
- มีลมรั่วในระบบท่อหรือไม่
4. ตรวจสอบเพิ่มเติมสำหรับแอร์ชนิดต่าง ๆ
- แอร์แบบ Split Type:
- ตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางระบายลมร้อน
- ตรวจดูว่าคอยล์ร้อนและคอยล์เย็นสกปรกหรือไม่
- แอร์ระบบน้ำเย็น:
- ตรวจสอบอัตราการไหลของน้ำเย็น (ปกติ 2.4 gpm/ตัน)
- ตรวจสอบอุณหภูมิน้ำเย็นเข้า (ควรอยู่ที่ประมาณ 45 °F)
5. สาเหตุอื่น ๆ และการป้องกันระยะยาว
- หากตรวจสอบทุกจุดแล้วไม่พบปัญหา อาจเป็นไปได้ว่าเครื่องแอร์มีขนาดไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่ใช้งาน
- เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต:
- หมั่นทำความสะอาดคอยล์และแผ่นกรองตามรอบ
- ตรวจสอบระบบแอร์อย่างสม่ำเสมอ
ด้วยการตรวจสอบและปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างจะสามารถแก้ปัญหาแอร์ไม่เย็นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดความร้อนใจของผู้ใช้งานได้แน่นอน!
<< ย้อนกลับ