วิธีดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
การใช้งานเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยจำเป็นต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝุ่นละอองจำนวนมาก อาจทำให้ฝุ่นอุดตันในครีบแผงคอยล์ได้รวดเร็ว ส่งผลให้แอร์ทำงานไม่เต็มที่ เกิดปัญหาแอร์ไม่เย็น น้ำรั่ว และสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของเครื่อง
ตรวจสอบและทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ (Fancoil Unit):
ควรล้างหรือทำความสะอาดทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อให้การไหลเวียนอากาศเป็นไปอย่างราบรื่น
ล้างแผงคอยล์เย็น (Evaporator Coil):
ทำความสะอาดทุก ๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นที่อาจลดประสิทธิภาพการทำความเย็น
ทำความสะอาดพัดลมส่งลมเย็น:
ใช้แปรงเล็กขจัดฝุ่นละอองที่ติดตามใบพัด ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อให้พัดลมทำงานได้เต็มที่
ล้างหน่วยคอยล์ร้อน (Condensing Unit):
ใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงฉีดล้างทุก ๆ 6 เดือน เพื่อช่วยให้เครื่องระบายความร้อนได้ดี
ตรวจเช็กมอเตอร์พัดลม:
ทั้งมอเตอร์หน่วยภายในและหน่วยภายนอก ควรเช็กทุก 6 เดือน พร้อมหล่อลื่นด้วยจาระบีหรือหยอดน้ำมัน
ดูแลถาดน้ำทิ้ง:
ตรวจสอบและทำความสะอาดถาดน้ำทิ้งให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างราบรื่น
ตรวจทิศทางลม:
หน่วยภายในต้องไม่มีวัสดุขวางทางลมเข้าออก เพื่อให้ลมเย็นกระจายตัวได้ทั่วถึง
ซ่อมแซมฉนวนท่อน้ำยา:
ตรวจสอบฉนวนที่ต่อระหว่างหน่วยภายในและภายนอก หากพบรอยฉีกขาดให้แก้ไขทันที
ตรวจสอบการรั่วของสารทำความเย็น:
หากพบว่าเครื่องไม่เย็น ควรให้ช่างผู้ชำนาญตรวจหารอยรั่ว เชื่อมซ่อมท่อ และเติมน้ำยาให้เต็มระบบ
ปิดช่องรั่วของอาคาร:
ตรวจสอบหน้าต่างและประตูว่าไม่มีรูรั่วที่อาจทำให้อากาศร้อนจากภายนอกเข้ามา
ตรวจสอบประจำปี:
เรียกช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังช่วยลดค่าไฟฟ้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว